ปฏิบัติธรรมดา มีความตั้งใจที่จะเป็น แล้วก็ปฏิบัติตาม มรรคมีองค์ 8 ค่อยๆ อบรมมรรคมีองค์ 8 หรือย่อยเป็น ศีล สมาธิ ปัญญา ทำไปเรื่อยๆ ให้สม่ำเสมอ ไม่ย่อท้อ ไม่หันหลังให้ มุ่งหน้าเข้าหาธรรม
สมาธินั้นก็ทำสมาธิตามธรรมชาติได้ ไม่ต้องเป็นพิธีรีตอง คือท่านอยู่อย่างธรรมดาทำงานทำการอะไรไป สมาธิที่ดีที่สุด คือสมาธิตามธรรมชาติ
สมัยก่อนเขาสำเร็จโสดาบัน อรหันต์ ด้วยสมาธิธรรมชาติคือทำใจให้สงบอยู่ตามปรกติ มันก็พอจะใช้ปัญญาได้ในการพิจารณาสิ่งทั้งหลายทั้งปวงว่ามันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ใช้ปัญญาได้ว่า อะไรมันเกิดจากอะไร ปัญญาจะค่อยๆ บรรลุธรรมได้เองโดยธรรมชาติอย่างพระสมัยก่อนก็ออกบิณฑบาตอย่างธรรมดา ทำกิจอย่างธรรมดา อยู่อย่างธรรมดา ไม่ต้องไปเข้มงวดกับชีวิตมาก แต่ก็ไม่ปล่อยให้หย่อนยานเกินไป สบายๆ จิตใจก็พัวพันอยู่กับธรรม ไม่ลืมธรรม ไม่หันหลังให้ธรรม บรรลุได้ สำคัญตรงที่ตั้งใจ
ถ้าถามขั้นตอนการปฏิบัติก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการดำเนินชีวิตตามมรรคมีองค์ 8 ใช้ชีวิตอย่างมีศีลธรรม ชีวิตที่เรียบง่าย เป็นอยู่อย่างชาวพุทธ นั่นแหละคือทางแห่งการบรรลุธรรม อย่าเขวนะครับ tune ความเห็นให้ตรง ทำทิฐิให้ตรง การบรรลุธรรมนั้น ถ้าตั้งความเห็นให้ตรง วางให้ถูก ไม่ยาก เหมือนเราเอาไม้่ลงน้ำ พอมันลงกระแสน้ำแล้ว มีแต่จะไหลไปอย่างเดียว แล้วในที่สุดก็จะไปถึงปลายทางเอง ไม่มีปัญหาเลย เอารถไฟเข้ารางให้ได้ แล้วมันไปเองไปตามราง อย่าให้ออกนอกทางเท่านั้น กระต้วมกระเตี้ยมไปบ้างก็ไม่เป็นไร แต่สำคัญอย่าเขวสิครับ เดี๋ยวเอาอันนั้น เดี๋ยวเอาอันนี้ไม่มั่นคงในพระธรรม จริงๆ อันนี้คืออุปสรรคที่พระพุทธเจ้าท่านว่า ขอนไม้อันนั้นไปติดฝั่งเสียบ้าง มีคนยกขึ้นเสียบ้าง ผุเสียบ้าง แล้วมันก็ไปไม่ถึงปลายทาง แต่ถ้าตั้งไว้ให้ตรงแล้วดำเนินชีวิตตามนั้น เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เชื่อการกระทำ เชื่อเหตุผล เชื่อสติปัญญา ไม่ต้องเชื่ออย่างอื่น จิตใจเราก็มั่นคงแน่วแน่ต่อพุทธธรรม นี่คือสาระสำคัญ
วศิน อินทสระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น